ระหว่างที่กำลังเลือกเสื้อผ้าเพื่อไปในงานประชุมประจำปีของบริษัท โดยที่มีธีม สีเขียว ตามสี CI ของแบรนด์ ประชุมกันมาทุกปี จนมีเสื้อผ้าสีเขียวจำนวนก็ไม่ใช่น้อยแล้ว
ปีนี้ก็ต้องเลยหันมาพึ่งไอเดียจากโซเชียลบ้าง บังเอิญว่า เลื่อนไปพบภาพศิลปินนักร้องสาวคนหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่านอกจากเสียงอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังแต่งตัวได้ ล้ำ อย่างดูดีเสมอ
ชุดที่เธอสวมเพื่อแสดง อนเสิร์ตวันนั้น คือเบลเซอร์ผ้าฝ้ายสีเขียวมะกอก สวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาว
กางเกงขากว้างลายพรางทหารสีเฟดๆ แค่นี้ก็น่าจะเรียกว่าฟิตติ้งได้ลงตัวแล้ว แต่ที่ทำให้ชุดนี้ดูพิเศษขึ้นไปอีกเลเวล ก็เพราะเธอผูกเนคไทสีเขียว ทำจากการถักที่เรียกว่านิตติ้ง เนคไทเส้นนั้นเป็นเส้นแคบ
ราวๆ สองนิ้ว ปลายตัด อดไม่ได้ที่จะลองค้นไปในอินเตอร์เน็ต เท็กเจอร์การถักและปลาย
ตัดนั้นเป็นเอกลักษณ์ของเนคไทแบรนด์ ‘Zegna’
ว้าว....เนคไทหนึ่งเส้นนั้น มีราคาถึง ห้าหลัก !ในสกุลเงินบาท
เนคไท ที่จริงมันก็เป็นแค่เครื่องแต่งกายที่ธรรมดา เห็นได้ทุกวันบนตัวผู้ชายบางอาชีพ ( ที่ใส่บ่อยๆ
อย่างเช่น อาจารย์ของพวกเรา ) สวมใส่กับเชิ้ตไปทำงาน ใช้ประกอบกับเครื่องแบบ นักเรียนนักศึกษา หรือเนคไทผ้าไหมราคาแพงสวมครบชุดกับสูทเพื่อออกงานเป็นทางการ
แต่ความเป็นจริง เนคไท ก็มีเรื่องราวและความสำคัญในตัวเองอยู่เหมือนกันนะ
ในโลกของแฟชั่นหรู เนคไทได้พัฒนาเป็น “เครื่องประดับ” ที่มีราคาสูง มีส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้
ให้กับแบรนด์เสื้อผ้า จากการปรับโฉมและพัฒนาเนคไทให้มีความแตกต่าง ทำให้สินค้าเล็กๆ นี้กลาย
เป็นไอเท็มที่ ขาด ไม่ได้
แต่ว่าทำไมเนคไทถึงมีราคาสูง? และมันสร้างรายได้มหาศาลให้แบรนด์ได้อย่างไร? และจะเกิดอะไร
ขึ้นเมื่อความคิดสร้างสรรค์และวัสดุต่างๆ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทั้งเป็นเอกลักษณ์และ
มีมูลค่า? เรามาดูไปพร้อมกัน
เพราะเสน่ห์ของวัสดุที่ไม่ธรรมดา
เมื่อให้คิดถึงเนคไทแบบคลาสสิก เราคงคงนึกถึงเนคไทผ้าไหมที่มีลวดลายโดดเด่น และช่วยเสริม
ความสมบูรณ์แบบให้กับชุดสูทหรือเบลเซอร์
แต่ถ้าเนคไทสามารถทำจากวัสดุที่แตกต่างออกไป เช่น หนังไหมหรือผ้าพันคอล่ะ? นั่นเป็นสิ่งที่ดีไซน์
เนอร์ผู้ออกแบบอย่างชาญฉลาดได้เพิ่มความมีสไตล์และความเป็นเอกลักษณ์ให้กับการแต่งตัวของผู้
สวมใส่
ในโลกแฟชั่นวัสดุที่นิยมในการนำมาตัดเย็บเป็นเนคไทได้อย่างลงตัวและโดดเด่นที่ไปสืบหามา ที่ดูมี
ดีเทลน่าหามาเป็นของของเรา มีอยู่สามรูปแบบ
1. หนัง: ตัวแทนแห่งความสง่างามและความกล้า
เนคไทจากหนัง เป็นตัวเลือกที่คนทั่วไปไม่เคยนึกถึง แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งและสง่างามเหมาะทั้ง
การแต่งตัวทางการและไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่กับเบลเซอร์ดีๆ หรือการใส่ในลุคที่ผ่อน
คลาย หนังสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับการแต่งตัวของคุณได้ เนคไทหนังบางตัวทำจากหนัง
คุณภาพดี และอาจมีลวดลายหรือพื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เนคไทหนังแต่ละเส้นแตกต่างจาก
ทั่วไป
![]() |
Itsveert.com |
2. ผ้าถัก: หรูหรา แต่เป็นกันเอง
เนคไทผ้าถัก ผสมผสานความเป็นทางการกับความสบายๆ ทำมาจากผ้าขนสัตว์หรือผสมไหม ซึ่ง
ให้ความรู้สึกนุ่มนวล แต่ก็ยังคงความหรูหรา การใช้เนคไทผ้าถักเหมาะกับการแต่งตัวที่ไม่เป็นทางการ
มากนัก แต่มันก็สามารถเพิ่มความมีระดับให้กับลุคได้ แม้จะดูเหมือนถุกเองก้ได้ง่ายจัง แต่อย่างไรก็ตาม
หากว่าเคยสำรวจตลาดสินค้าหรู จะได้พบว่าเนคไทผ้าถักจากแบรนด์อย่าง Zegna นั้น มีราคาที่สูงมาก
หลายร้อยดอลลาร์ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็ มาจากวัสดุคุณภาพและ ชื่อเสียงของแบรนด์
![]() |
nordstrom.com |
3. ผ้าพันคอ: ความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย
การนำผ้าพันคอมาทำเป็นเนคไทถือเป็นการสร้างสรรค์ที่น่าสนใจและมีความหลากหลาย เราสามารถ
เลือกผ้าไหม ผ้าลินิน หรือผ้าฝ้ายมาทำเนคไทในสไตล์ของเราเอง ลวดลายจากผ้าพันคอ เช่น ลายดอก
ไม้ย้อนยุคหรือลายเรขาคณิตสมัยใหม่สามารถทำให้เนคไทดูแตกต่างและสะท้อนรสนิยมที่เป็น
เอกลักษณ์ของแต่ละคน
เนคไทจากผ้าพันคอนี้ยังเหมาะที่จะใช้ไปในงานเลี้ยง หรืองานแต่งงาน ให้ลุคที่พิถีพิถันแต่ว่านุ่มนวล
![]() |
johnhenric.com |
ราคาสูงของเนคไทผ้าถักที่หรูหรา
เมื่อเราพูดถึงวัสดุที่ไม่ธรรมดาแล้ว ก็อยากรู้ว่าทำไมเนคไทผ้าถักที่ดูธรรมดา กลายเป็นไอเท็มหรูได้
เช่นแบรนด์อย่าง Zegna
ราคาที่พูดถึงอาจฟังดูแพงเมื่อมองแวบแรก แต่ราคานั้นเชื่อมโยงกับความพิถีพิถันในการผลิตและคุณภาพของวัสดุ
เนคไทผ้าถักที่ทำจากผ้าไหมหรือผ้าขนสัตว์คุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้ความละเอียดอ่อน
ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงและราคาก็สูงตาม อีกทั้งความพิเศษและความหายากของผลิตภัณฑ์เหล่า
นี้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถตั้งราคาได้
สำหรับแบรนด์หรู พวกเขามีความสามารถตั้งราคาสูงได้เช่นนั้น ก็เพราะสินค้าของพวกเขาเป็น
สัญลักษณ์ของสถานะทางสังคม
ธุรกิจใหญ่จากเนคไท: รายได้จากเครื่องประดับ
เนคไทอาจดูเป็นแค่เครื่องประดับเล็กๆ แต่ในโลกแฟชั่นหรู มันเป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก แบรนด์ระดับ
ไฮเอ็นด์ เช่น Hermès, Zegna, และ Tom Ford ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในตลาดเนคไท
โดยเนคไทหรูจากแบรนด์เหล่านี้มีราคาแพงและกลายเป็นสินค้าไอคอนที่ทุกคนต้องการ
ตลาดเนคไทหรูมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้บริโภคหัน
มาสนใจเครื่องประดับหรูมากขึ้น แบรนด์อย่าง Hermès สร้างชื่อเสียงจากเนคไทผ้าไหมคุณภาพสูง
และลวดลายที่มีเอกลักษณ์ ราคาเนคไทเหล่านี้จะอยู่ที่ 200–300 ดอลลาร์ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า
แบรนด์หรูได้ยกระดับเครื่องประดับเล็กๆ นี้ให้กลายเป็นสินค้าที่มีรายได้มหาศาล
รายได้จากตัวเลข
แม้ว่าจะไม่สามารถบอกได้อย่างตรงไปตรงมาว่ารายได้จากเนคไทของแต่ละแบรนด์มากหรือน้อยเท่าไหร่
แต่ตลาด เนคไทหรู ในปี 2023 มีมูลค่ากว่า 3.96 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง
ในส่วนของการเติบโตนั้น ขับเคลื่อนโดยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเนคไทคุณภาพดี และการช้อป
ปิ้งออนไลน์ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนสามารถเข้าถึงสินค้าหรูได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ร้านค้าออนไลน์อย่าง Mr. Porter ผู้ที่มีสินค้าประเภทเนคไทจำหน่ายจำนวนมาก รายงาน
ว่า ยอดขายเนคไทเพิ่มขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับปี 2022 นี่แสดงให้เห็นว่าเครื่องประดับอย่างเนคไทมี
บทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ไม่น้อยทีเดียว
พลังของความคิดสร้างสรรค์ในธุรกิจ
หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วความรู้นี้จะช่วยให้นักออกแบบหรือผู้จำหน่ายที่ไม่ใช่แบรนด์หรู แต่ยัง
ต้องการทำเงินจากความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร ? คำตอบง่ายๆ คือ การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และความสามารถทางธุรกิจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง
แบรนด์หรูทำเงินได้ ไม่ใช่แค่จากคุณภาพที่เหนือชั้น แต่จากการสร้างความต้องการและความพิเศษ
เมื่อคุณผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับวัสดุที่ใช่และการตลาดที่ตรงกลุ่ม ทุกอย่างสามารถกลาย
เป็นธุรกิจที่มีกำไรได้ เช่น การสร้างเนคไทที่ทำจากหนัง ผ้าถัก หรือผ้าพันคอที่มีความเป็นเอกลักษณ์ สามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ โดยไม่ต้องจ่ายแพงเหมือนแบรนด์หรู
รายได้จากสิ่งเล็กๆ สู่ธุรกิจใหญ่
สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากแบรนด์ระดับไฮเอนด์ได้คือ การทำเงินจากความคิดสร้างสรรค์นั้นสามารถ
ทำได้ง่าย เพียงแค่รู้จักผสมผสานความหลงใหลกับความสามารถในการทำธุรกิจ แบรนด์หรูได้แสดง
ให้เห็นว่าเครื่องประดับอย่างเนคไทสามารถเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่มีรายได้มหาศาล
เนคไทเส้นเล็กๆ เป็นแค่เครื่องประดับชิ้นหนึ่ง แต่เมื่อมีการใช้วัสดุที่ดี การออกแบบที่พิถีพิถัน และ
การตลาดที่มีประสิทธิภาพก็สามารถกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าและสร้างกำไรได้
โลกของเนคไทนั้นมีอะไรมากกว่าที่เราคิด มันคือพื้นที่ที่สร้างสรรค์และมีกำไรสูง แบรนด์หรูได้เปลี่ยน
เครื่องประดับเล็กๆ นี้ให้กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญ การสำรวจวัสดุใหม่ การออกแบบที่สร้างสรรค์
และการตลาดที่ตรงกลุ่มทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทำเงิน
No comments:
Post a Comment